บันทึกอนุทินครั้งที่ 10
วัน อังคารที่ 10 เดือน
มีนาคม พ.ศ. 2558
วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
ครูผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่มถิน
สิ่งที่ได้รับความรู้ในวันนี้
การวัดความสามารถทาภาษา
การวัดความสามารถทาภาษา
· เข้าใจสิ่งที่ผู้อื่นพูดไหม
· ตอบสนองเมื่อมีคนอื่นพูดด้วยไหน
· ถามหาสิ่งต่างๆไหม
· บอกเล่าเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นไหม
· ใช้คำศัพท์ของตัวเองกับเด็กคนอื่นไหม
การปฏิบัติของครูและผู้ใหญ่
- ครูหรือผู้ใหญ่ไม่ควรสนใจการพูดติดขัด
การพูดไม่ชัดของเด็ก และห้ามบอกเด็กว่า “พูดช้า” “ตามสบาย” “คิดก่อนพูด”
และอย่าขัดจังหวะเวลาเด็กพูดเพราะขัดจังหวะจะทำให้เด็กไม่มีความ
มั่นใจในการพูดครั้งต่อไป
- ไม่เปรียบเทียบการพูดของเด็กกับเด็กคนอื่น
การเปรียบเทียบเป็นสิ่งที่ไม่ดีและคนเป็นครูไม่ควรที่จะเปรียบเทียบเด็กไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็แล้วแต่
เพราะจะทำให้เด็กขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ไม่กล้าแสดงออกและเด็กก็จะเกิดปมในใจ
- เด็กที่พูดไม่ชัดอาจเกี่ยวเนื่องจากการได้ยินครูควรสังเกตพฤติกรรมเด็กไปเรื่อยๆ
หาวิธีแก้ไขและส่งเสริม หาสาเหตุที่แท้จริง
และครูก็อย่าด่วนสรุปการพูดไม่ชัดของเด็กไปเอง เพราะเด็กอาจจะได้ยินเสียงผิดปกติ
หรือลิ้นไก่สั้นก็เป็นได้
ทักษะพื้นฐานทางภาษา
· ทักษะการรับรู้ภาษา
· การแสดงออกทางภาษา
· การสื่อความหมายโดยไม่ใช้คำพูด
- หากเด็กพิเศษทำได้ 2 ข้อ ถือว่าเก่งมาก
ความรับผิดชอบของครูปฐมวัย
· การรับรู้ภาษามาก่อนการแสดงออกทางภาษา
การเข้าใจสีหน้าแบะแววตา
· ภาษาที่ไม่ใช่คำพูดมาก่อนภาษาพูด ภาษาท่าทาง
กิริยาอาการที่แสดงออกมา
· ให้เวลาเด็กได้พูด รับฟังความคิดเห็นของเด็ก
เปิดโอกาสให้เด็ได้แสดงออกทางความคิดผ่านการพูดหรือผลงาน
· คอยให้เด็กตอบ(ชี้แนะหากจำเป็น)
ขณะทำกิจกรรมหรือทำเสร็จครูอาจจะใช้คำถามให้เด็กได้แสดงความคิดเห็นของเขา
หากเด็กยังตอบไม่ได้ครูก็อาจจะชี้แนะแนวทางเพื่อให้เด็กมั่นใจที่จะตอบมากยิ่งขึ้น
· เป็นผู้ฟังที่ดีและโตตอบอย่างฉับไว
เมื่อเด็กแสดงความคิดหรืออวดผลงานของตนเอง ครูควรที่จะชมทันทีและไม่พูดยาวเกินไปพูดแค่สิ่งที่เด็กต้องการที่จะสื่อสารกับเรา
หรือครูไม่ควรพูดมาก
· เด็กไม่ได้เรียนรู้ภาษาจากการฟังอย่างเดียว
อาจจะเรียนรู้ผ่านภาพ ผ่านเสียงเพลง การการสนทนา ผ่านตัวหนังสือที่แปะตามห้องเรียน
เป็นต้น
· ให้เด็กทำกิจกรรมกลุ่ม
เด็กพิเศษจะเลียนแบบเด็กปกติ เด็กปกติเปรียบเสมือนครูของเขา
เด็กพิเศษจะดูแล้วก็ทำตาม
· การกระตุ้นให้เด็กบอกความต้องการของตนเอง
(ครูไม่ควรคาดการณ์ล่วงหน้า)
เช่น
การใส่ที่คาดผม เด็กกำลังใส่ที่คาดผมอยู่
1. เข้าไปหา
แล้วถามว่า "หนูกำลังทำอะไรอยู่คะลูก"
2. หนูกำลังใส่ที่ คาดผม อยู่ใช่ไหมลูก
3. ถ้าเด็กยังไม่ตอบ
4. ให้ครูช่วยใส่ที่ คาดผม ไหมลูก (พูดที่คาดผมบ่อยๆ)
5. ถ้าเด็กยังไม่พูด
ครูจับมือเด็กแล้วใส่ให้เลย
ความรู้ที่ได้รับจากการดูวีดีโอ
ผลิบานผ่านมือครู โรงเรียนอนุบาลบ้านพลอยภูมิ
กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
· ทำให้เด็กมีสมาธิรู้จักการรอคอย
· มีทักษะการฟังมากยิ่งขึ้น
· กิจกรรมมีเพลงมีท่าทางประกอบเพื่อฝึกสมาธิ
· ใช้กิจกรรมเพื่อเรียกสมาธิตอนเช้าก่อนเข้าสู่กิจกรรมอื่น
สำหรับเด็กพิเศษ
มีห่วงมาร่วมกิจกรรมใช้เป็นเงื่อนไขในการทำกิจกรรม จาก 1 วงเพื่อขึ้นเรื่อยๆเพื่อความยากในการกระโดด
ฝึกให้เด็กกระโดดจนกระโดดเก่ง
เมื่อเด้กทำได้เขาจะเกิดความภูมิใจและมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
· การกระโดดเป็นการฝึกการกะระยะฝึกความสัมพันธ์ระหว่างตา
งานศิลปะเพื่อเรียนสมาธิ
เปิดเพลงจังหวะดนตรีเบาๆ แล้วให้เด็กจับคู่กัน 2 คน แจกกระดาษ 1 แผ่นและหยิบสีคนละ 1 แท่ง แล้วลากสีเป็นรูปทรงเหลี่ยมมีมุม ห้ามมุมหักและเป็นรูปวงกลม และห้ามยกมือขึ้นจนกว่าเพลงจะจบ
เมื่อเพลงจบ ให้เด็ดระบายสีตรงมุมที่มีช่วงว่างหรือตัดกัน
สิ่งที่ได้รับจากการทำกิจกรรม
เปิดเพลงจังหวะดนตรีเบาๆ แล้วให้เด็กจับคู่กัน 2 คน แจกกระดาษ 1 แผ่นและหยิบสีคนละ 1 แท่ง แล้วลากสีเป็นรูปทรงเหลี่ยมมีมุม ห้ามมุมหักและเป็นรูปวงกลม และห้ามยกมือขึ้นจนกว่าเพลงจะจบ
เมื่อเพลงจบ ให้เด็ดระบายสีตรงมุมที่มีช่วงว่างหรือตัดกัน
สิ่งที่ได้รับจากการทำกิจกรรม
1. มิติสัมพันธ์
2. ฝึกสมาธิ
3. พัฒนาอารมณ์และจิตใจ
4. พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก
5. ความสัมพันธ์ระหว่างมือและตา
6. ความคิดสร้างสรรค์
7. ด้านภาษา
8. ด้านสังคมการทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
1. ใช้ในการส่งเสริมทักษะทางภาษากับเด็กปฐมวัยอย่างถูกวิธี
2. ใช้กับตัวเองเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติและเตือนตนเองอยู่เสมอ
3. ใช้ในการเข้าใจความแตกต่างและธรรมชาติของเด็ก
4. ใช้ในการแก้ไขปัญหาหรือปฏิบัติตนเมื่ออยู่ในสถานการณ์ต่างๆ
5. ใช้ในการปฏิบัติให้เป็นครูที่ดี
มีความรู้และเป็นที่รักของเด็ก
6. นำไปบอกต่อกับผู้ปกครองหรือเพื่อนที่ยังไม่รู้ในเรื่องของเด็กพิเศษ
การประเมินการเรียนการสอน
ตนเอง
* เข้าเรียนตรงต่อเวลา
แต่งกายสุภาพเรียบร้อย
เรียนตามเนื้อหาและก็ตั้งใจฟังอาจารย์และจดบันทึกตามที่อาจารย์ได้สอน
อาจมรเล่นโทรศัพท์ไปบ้างเล็กน้อย
เพื่อน
* เพื่อนๆเข้าเรียนตรงเวลาและตั้งใจเรียนมิอาจารย์ได้สอนหรือให้ทำกิจกรรมกันเป็นอย่างดี
อาจจะมีบางกลุ่มพูดคุยกันบ้างแต่ไม่มาก
ครูผู้สอน
* อาจารย์แต่งกายเรียบร้อย มาสอนตรงต่อเวลา
อาจารย์คอยแนะนำและมีเทคนิคใหม่ๆมาสอน และชอบหากิจกรรมมาให้นักศึกษาเสมอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น