วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558

อนุทินครั้งที่ 6

บันทึกอนุทินครั้งที่    6
 วัน อังคารที่ 10 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
ครูผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่มถิน

ความรู้ที่ได้รับ
      การเรียนการสอนในวันนี้เป็นการเรียนเนื้อหาเรื่อง ทักษะของครูและทัศนคติ และก่อนการเรียนอาจารย์มีกิจกรรมมาให้ทำก่อน คือการสเกตภาพมือข้างซ้ายโดยให้สวมถุงมือปิดไว้ แล้ววาดมือให้เหมือนจริงที่สุด และท้ายคาบก็จะมีกิจกรรมให้นักศึกษาร้องเพลง

ทักษะของครูและทัศนคติ
การฝึกเพิ่มเติม                             
- อบรมระยะสั้น , สัมมนา                                                                                         
- สื่อต่างๆ

การเข้าใจภาวะปกติ
 - เด็กมักคล้ายคลึงกันมากกว่าแตกต่าง
- ครูต้องเรียนรู้ , มีปฎิสัมพันธ์กับเด็กปกติและเด็กพิเศษ
- รู้จักเด็กแต่ละคน
- มองเด็กให้เป็นเด็ก คือจะไม่แยกเด็กปกติกับเด็กพิเศษ  

การคัดแยกเด็กที่มีพัฒนาการช้า
   - การเข้าใจพัฒนาการของเด็ก จะช่วยให้ครูสามารถมองเห็นความแตกต่างของเด็กแต่ละคนได้ง่าย

ความพร้อมของเด็ก
- วุฒิภาวะ
- แรงจูงใจ
-โอกาส(เด็กปกติมีโอกาสสูงกว่าเด็กพิเศษ)

การสอนโดยบังเอิญ
คือเด็กจะเป็นฝ่ายเข้ามาถาม หรือถ้าเด็กไม่เข้าหาครูต้องเป็นฝ่ายเข้าไปหาเด็กเพราะเด็กอาจจะต้องการความช่วยเหลือ ครูเองก็ไม่ควรรำคาญเด็ก ต้องให้ความสนใจเด็กอยู่ตลอด ครูต้องสอนต้องทำให้เป็นเรื่องสนุกสนาน

อุปกรณ์
- มีลักษณะง่ายๆ
- ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง
- เด็กพิเศษได้เรียนรู้จากการสังเกตและเลียนแบบเด็กปกติ
- เด็กปกติเรียนรู้ที่จะให้ความช่วยเหลือเด็กพิเศษ

ตารางประจำวัน
ต้องจัดตารางให้เหมือนๆกันทุกวัน ต้องจัดให้ชัดเจน และเด็กสามารถคาดเดาได้ว่าต้องเรียนอะไร

ทัศนคติของครู
   ความยืดหยุ่น
- การแก้แผนการสอนให้เหมาะสมกับสถานการณ์
- ยอมรับขอบเขตความสามารถของเด็ก
- ครูต้องตอบสนองต่อเป้าหมายที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็กแต่ละคน

เทคนิคการให้แรงเสริม
   แรงเสริมทางสังคมจากผู้ใหญ่
- ความสนใจของผู้ใหญ่ที่มีต่อเด็กนั้นสำคัญมาก
- มีแนวโน้มจะเพิ่มพฤติกรรมที่ดีของเด็ก และมักเป็นผลในทันที
- หากผู้ใหญ่ไม่สนใจพฤติกรรมที่ดีนั้นๆก็จะลดลงและหายไป

หลักการให้แรงเสริมในเด็กปฐมวัย
- ครูต้องให้แรงเสริมทันทีที่เด็กมีพฤติกรรมอันพึงประสงค์
- ครูต้องละเว้นความสนใจทันทีและทุกครั้งที่เด็กแสดงพฤติกรรมที่ไม่พึ่งประสงค์
- ครูควรให้ความสนใจเด็กนานเท่าที่เด็กมีพฤติกรรมที่พึ่งประสงค์
ขั้นตอนการให้แรงเสริม
 - สังเกตและกำหนดจุดมุ่งหมาย
- วิเคราะห์งาน กำหนดจุดประสงค์ย่อยๆในงานแต่ละขั้น
- สอนจากง่ายไปยาก                                                                                                   
- ให้แรงเสริมทันทีเมื่อเด็กทำได้ หรือเมื่อเด็กพยายามอย่างเหมาะสม
- ลดการบอกบท เมื่อเด็กเรียนรู้ที่จะก้าวไปขั้นต่อไป
- ให้แรงเสริมเฉพาะพฤติกรรมที่ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่สุด
- ทีละขั้น ไม่เร่งรัด “ยิ่งขั้นเล็กเท่าไหร่ ยิ่งดีเท่านั้น
- ไม่ดุหรือตี

การกำหนดเวลา
- จำนวนและความถี่ของแรงเสริมที่ให้กับพฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็กต้องมีความเหมาะสม
ความต่อเนื่อง
- พฤติกรรมทุกๆอย่างในชีวิตประจำวันต่อเนื่องกันระหว่างพฤติกรรมย่อยๆ หลายๆอย่างรวมกัน
- เช่น การเข้าห้องน้ำ การนอนพักผ่อน การหยิบและเก็บของ การกลับบ้าน
- สอนแบบก้าวไปข้างหน้า หรือย้อนมาจากข้างหลัง

การลดหรือหยุดแรงเสริม
- ครูจะงดแรงเสริมกับเด็กที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
- ทำอย่างอื่นและไม่สนใจเด็ก
- เอาอุปกรณ์หรือขอเล่นออกไปจากเด็ก
- เอาเด็กออกจากการเล่น

กิจกรรม การร้องเพลง

การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
     จากการเรียนเนื้อหาในเรื่องของทักษะของครูและทัศนคติ เป็นเรื่องที่มีประโยชน์อย่างมาก เป็นเรื่องที่เราต้องใช้ในการเป็นคุณครูที่ดีในอนาคตได้
 การประเมินการเรียนการสอน
ตนเอง
 * เข้าเรียนตรงต่อเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย เรียนตามเนื้อหาและก็ตั้งใจฟังอาจารย์และจดบันทึกตามที่อาจารย์ได้สอน อาจมรเล่นโทรศัพท์ไปบ้างเล็กน้อย
เพื่อน
 *  เพื่อนๆเข้าเรียนตรงเวลาและตั้งใจเรียนมิอาจารย์ได้สอนหรือให้ทำกิจกรรมกันเป็นอย่างดี อาจจะมีบางกลุ่มพูดคุยกันบ้างแต่ไม่มาก
ครูผู้สอน
อาจารย์แต่งกายเรียบร้อย มาสอนตรงต่อเวลา อาจารย์คอยแนะนำและมีเทคนิคใหม่ๆมาสอน และชอบหากิจกรรมมาให้นักศึกษาเสมอ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น